เราเคยตั้งคำถามไหมครับว่า เป้าหมายในชีวิตที่แท้จริงของเรา คืออะไร ? และในหนึ่งชีวิตที่เราได้เกิดมานี้ ผลลัพธ์ในชีวิตแบบไหนที่เราต้องการได้มาจริงๆ
คำถามนี้หากฟังด้วยความเคยชินแบบเผิน ๆอาจดูเหมือนไม่มีอะไร เนื่องเพราะว่า เราเกิดมาเราก็รู้อยู่แล้วว่าหน้าที่ของคนเราโดยส่วนใหญ่ก็คือ ตอนเป็นนักเรียนก็ตั้งใจเรียน ตอนทำงานก็ตั้งใจทำงาน แล้วชีวิตก็จะประสบความสำเร็จ ไม่เห็นจะต้องมานั่งคิดอะไรให้ยุ่งยาก
แต่จะว่าไปแล้ว หากเรามาพิจารณาถึงสาเหตุที่เราต้องตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานอย่างหนักนั้น มันมีบางสิ่งซ่อนอยู่ บางสิ่งที่ว่ามันก็คือที่มาของพฤติกรรมดังกล่าวนั่นเอง เรากำลังทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจเรียน ทำงานอย่างหนัก ขวนขวายพัฒนาตัวเองเพื่อเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง เพื่อให้ชีวิตประสบความสำเร็จ หรือบรรลุเป้าหมายในชีวิต
หากแต่เราเคยทบทวนไหมครับว่า ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ หรือเป้าหมายในชีวิตที่เราต้องการไปถึงนั้น โดยเนื้อแท้แล้วมันคืออะไรกันแน่ ? ใช่สิ่งที่เรากำลังพยายามเพื่อให้ได้มาจริงๆหรือเปล่า ?
ผมไม่ได้บอกว่าความขยันในการทำงาน การเรียน เป็นสิ่งไม่ดี หากเรากำลังพิจารณาถึงการใช้เวลา การลงมือทำสิ่งต่างๆในวันนี้ของเรา สุดท้ายแล้วมันตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิตที่แท้จริงของเราหรือเปล่า
เพราะสิ่งที่ทุกคนไม่อยากเจอนั่นคือการตั้งใจใส่เเรง ใส่ความพยายามไปจนสุดชีวิตกับการขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดของตึก สุดท้ายพบว่าตัวเองถึงยอดตึกตามที่ตั้งใจไว้แต่เเรกเเล้ว แต่กลับพบว่า …
เราขึ้นบันได ” ผิดตึก ”
ความเชื่อกำหนดการกระทำ
ในวัยเด็กเรามักจะได้ยินคำพูดแนว ๆ ที่ว่า “ ตั้งใจเรียนนะ โตขึ้นจะได้ทำงานดีๆ มีฐานะมั่นคง เป็นเจ้าคนนายคน ” ซึ่งจะว่าไปคำพูดแบบนี้ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ เพียงแต่อาจจะเผลอเหมารวมไปว่า การได้ทำงานดีๆ มีตำแหน่งดีๆ มันคือความสำเร็จทั้งชีวิต ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เป้าหมายความสำเร็จในชีวิตมันยังมีอีกหลายด้าน เช่น สุขภาพ , เวลา , ลู่ทางรายได้ (Active/Passive) และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความฝันของเรา รูปแบบชีวิตที่เราต้องการเป็น ต้องการใช้จริง ๆ
แต่ทุกวันนี้เรามุ่งมั่น โฟกัส เวลาและแรงกายทั้งชีวิต ไปที่ อาชีพ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในองค์ประกอบของเป้าหมายในชีวิตอย่างเดียวเท่านั้น
เราอาจจะบอกว่า ก็ต้องสำเร็จในอาชีพก่อนสิ ถึงจะมีเงิน และเมื่อมีเงินแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตที่ต้องการมันก็จะตามมาเองแหละ
มันก็จริงครับ เงินเป็นสิ่งที่จำเป็น และปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสำคัญโดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ และเมื่อไรก็ตามที่เราสามารถทำให้เงินกับเราจบกัน หมายความว่าเราไม่ต้องกังวลกับการที่ต้องตื่นมาดิ้นรนเพื่อหาเงิน เพราะต้องเอามาดำรงชีวิต นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความสุขในชีวิตที่แท้จริง ( ในมุมที่ยังใช้ชีวิตทางโลกอยู่นะครับ )
แต่เราลองถามตัวเอง หรือแม้แต่คนใกล้ชิดตัวเราไหมครับว่า ที่เราขยันตั้งใจเรียนจนจบ และมุ่งมั่นทำงานมา เป็นเวลากี่ปีแล้ว อาจจะ 10 ปี หรือ 20 ปี เราสามารถทำให้เงินกับเรา มันจบกันได้แล้วยังครับ เราได้ไปใช้ชีวิตตามที่เราออกแบบไว้ได้หรือยัง ขอให้ตอบแบบตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์กับความฝันของตัวเองนะครับ
ท่านที่ตอบว่าเงินกับเรามันจบกันแล้ว ตอนนี้ได้ใช้ชีวิตตามแบบที่ฝันไว้แล้ว ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ ส่วนท่านที่ตอบว่า ก็ขยันมา 10 ปี 20 ปี แล้วนะ แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดทำงานได้เลย ท่านต้องเอะใจอะไรบางอย่างแล้วนะครับ อย่างน้อยก็ต้องมีทดไว้ในใจแล้วว่า ความเชื่อ + เครื่องมือ ที่ท่านใช้อยู่มันสามารถทำให้ท่านบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ ทำไมต้องเชื่อต่อ?
นิยามความสำเร็จคืออะไร
เรานิยามความสำเร็จหรือเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างไรครับ ระหว่าง
- เป้าหมายในชีวิต = รวย
ข้อนี้คือตรงตัวเลยครับ วันที่เรามีเงินเยอะ ๆ นั่นคือเราสำเร็จในชีวิต ไม่มีความกังวล ซึ่งก็จะทำให้เรามุ่งมั่นไปที่จำนวนเงินให้มากเข้าไว้ เพื่อที่จะทำให้ระดับความสำเร็จของเราสูงขึ้นเรื่อย ๆ
กับ
- เป้าหมายในชีวิต = มีชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน โดย มีอิสรภาพครบทั้งสามด้าน คือ เงิน เวลา และ สุขภาพ
ถ้ารูปแบบความสำเร็จของเราเป็นแบบนี้ เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีพ มีเวลาเหลือเฟือให้กับตัวเองและคนที่รัก รวมทั้งมีสุขภาพกายและใจที่รู้สึกอบอุ่น มั่นคง แข็งแรง
หากเลือกได้ คุณอยากเลือกความสำเร็จหรือเป้าหมายในชีวิตที่อยากให้เกิดขึ้นกับชีวิตคุณแบบไหนครับ ?
และหากเลือกได้ คุณอยากใช้ชีวิตแบบไหนครับ ระหว่าง
- เกิดมาแล้วต้องทำงานหนักไปทั้งชีวิต
กับ
- เกิดมาแล้วสามารถใช้ชีวิตที่ประกอบไปด้วย อิสรภาพ ทางด้าน เงิน เวลา และสุขภาพ
สำหรับท่านที่รักการทำงาน และบอกว่างานคือชีวิตจิตใจ ภักดีในองค์กรอย่างสูงสุด ผมไม่ได้บอกให้ท่านเลิกทำงานนะครับ ท่านก็ทำต่อไป ซึ่งการทำงานเป็นเรื่องทีดี มีประโยชน์ต่อสังคมไม่แง่มุมใดก็แง่มุมหนึ่ง แต่ตอนนี้เรากำลังพูดถึงประเด็นของเป้าหมายในชีวิตที่เราควรจะได้รับในฐานะที่ได้เกิดมาครั้งนึง
และหากท่านรักในการทำงานจริง ๆจัง ๆ ลองตั้งคำถามเพิ่มเติมเพื่อท่านจะได้ประโยชน์จากการพูดคุยกันในบทความนี้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยว่า งานแบบไหนที่ท่านรู้สึกว่า หากท่านได้ทำแล้วจะมีความสุข (ม๊วกกกๆๆ) ระหว่าง
งานที่ต้องทำด้วยความจำเป็น กับ งานที่เลือกทำได้เพราะใจรัก มีอิสระในการเลือกทำ
งานแบบไหนน่าจะสร้างความสุขให้กับท่านมากกว่ากัน ?
จะว่าไปงานที่เราเลือกทำในทุกวันนี้ ก็ถูกกำหนดมาจากการกระทำในอดีตบางอย่าง เช่น คนที่เป็นวิศวกร โดยทั้งหมดก็ต้องเคยเรียนวิชาทางด้านวิศวกรรมมา คนที่เป็นหมอ ก็ต้องเรียนวิชาทางด้านการแพทย์มา จะให้หมอไปทำงานด้านวิศวกรก็คงไม่ได้ จะให้วิศวกรไปตรวจวินิจฉัยโรคก็คงไม่ได้อีก
หากสิ่งที่เราต้องตระหนักมาก ๆ และเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะหลงลืมไป นั่นคือ แน่นอนว่า เราอาจจะเรียนมาทางด้านใดด้านหนึ่ง เช่น แพทย์ วิศวกร เภสัชกร พยาบาล นักบิน ฯลฯ
แต่มันไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องเอาเวลาที่เราใช้ไปในมหาวิทยาลัย อาจจะ 4 ปี 6 ปี มาล็อกชีวิตเราไว้ทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ ไม่ได้มีใครมากำหนดนี่ครับว่า หากเราเรียนจบสาขานี้มาแล้ว เราต้องอยู่ ต้องทำ ต้องสำเร็จ ในวิชาชีพนี้เท่านั้น ห้ามทำอย่างอื่นตลอดชีวิต หากแต่ตัวเรา หรือแม้แต่คนส่วนใหญ่มักเผลอใช้วิธีคิดแบบนี้อยู่
วิชาที่เราเรียน สาขาที่เราเลือก มันเป็นเพียงแค่ซอฟแวร์ตัวหนึ่งที่เราดาวน์โหลดเข้ามาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เหมือนกับความรู้ ความเชื่อบางอย่าง ที่เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก และเราก็ดำเนินชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเวลานาน จนคุ้นชิน และเผลอนึกไปว่านี่แหละคือตัวเรา เราต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอดแหละ
ซึ่งจริง ๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้มันเป็นเพียงแค่ซอฟแวร์ครับ หากมันไม่เวิร์ค หรือไม่ตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิตของเรา เราก็แค่ลบซอฟแวร์ตัวเก่า ( หรืออัพเดท ) แล้วลงซอฟแวร์ตัวใหม่ ที่ทำให้เราได้รับผลลัพธ์ในชีวิตที่เราต้องการ
เพราะความเชื่อ ความรู้ ความคิด การกระทำ ที่ผ่านมา มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ หากแต่เราต้องมองไปที่เป้าหมายปลายทางที่เราต้องการเป็นอันดับแรก แล้วค่อยมองย้อนกลับมาที่ วิธีคิด เครื่องมือ ที่จะทำให้ได้ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าว
สรุป
ประเด็นทั้งหมดที่พูดคุยกันในครั้งนี้ ก็เพื่อให้เราได้มองเห็นว่า อะไรคือเป้าหมายในชีวิตที่เราควรได้รับจริงๆ
ความสำเร็จแบบไหนที่เราควรมองหา การกระทำ ความเชื่อ การลงแรง การใช้เวลา ไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน หรือ ธุรกิจที่เราดูแล มันทำให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิตที่เราควรจะได้รับ ตามที่เราต้องการได้หรือยัง ถ้ายังไม่ได้ หากเรายังคงทำเหมือนเดิมต่อไป เราจะยังได้มาหรือเปล่า
หากคำตอบคือ ไม่ได้หรือ ไม่แน่ใจ ก็ไม่เป็นไรครับ สำคัญคือในวันนี้ เราก็แค่เอะใจ และตระหนักรู้ว่า หากเรายังใช้ ความคิด ความรู้ ความเชื่อ และเครื่องมือเดิม ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาเดินตามเส้นทางเดิมต่อไป ผลลัพธ์ในชีวิตที่ควรจะได้รับก็คงจะเหมือนเดิม ( จริงไหมครับ ? )
ดังนั้น เราก็แค่เงยหน้ามองดูอนาคต เปิดใจ เปลี่ยนแปลง มองหา วิธีคิด ความรู้ ความเชื่อ เครื่องมือใหม่ ๆ ยานพาหนะใหม่ ๆ ที่สามารถทำให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิตในรูปแบบที่เราต้องการได้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องการมีเงินเยอะ ๆ แต่มันคือการเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้ปลายทางของชีวิตเราได้รับอิสรภาพทั้งทางด้าน การเงิน เวลา และสุขภาพ พร้อม ๆ กัน และได้ใช้ชีวิตที่มีสมดุลทั้งสามสิ่งนี้ตลอดไปในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่